หนี้เยอะ เครียด อยากแก้หนี้เสียสารพัดบัตร “คลินิกแก้หนี้” ช่วยคุณได้ เพียงมีคุณสมบัติตามนี้ จากนั้นก็เตรียมเอกสารให้พร้อม รอวันปลอดหนี้ได้เลย!
หนี้เยอะ เครียด “คลินิกแก้หนี้” ช่วยได้จริงหรือ?
“คลินิกแก้หนี้” เกิดขึ้นจากความคิดริเริ่มของธนาคารแห่งประเทศไทย ด้วยความร่วมมือจากสมาคมธนาคารไทย และสมาคมธนาคารนานาชาติ เริ่มต้นเมื่อปี 2560 โครงการคลินิกแก้หนี้ ระยะที่ 1 เกิดขึ้นเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินส่วนบุคคล ที่ไม่มีหลักประกันของลูกหนี้รายย่อยที่มีหนี้ค้างชำระอยู่กับธนาคารเจ้าหนี้ให้สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินได้เบ็ดเสร็จครบวงจรในที่เดียว ธนาคารเจ้าหนี้ 16 แห่งที่เข้าร่วมโครงการ มอบหมายให้บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เป็นหน่วยงานกลางเชื่อมโยง ระหว่างลูกหนี้ และเจ้าหนี้ทุกราย ควบคู่กับการส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับการวางแผน และวินัยทางการเงินที่ดี เพื่อสร้างค่านิยมที่ถูกต้อง ด้านการลดความฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย และสร้างเสริมสุขภาพทางการเงินที่ดี ให้แก่คนรุ่นใหม่ในสังคม นำไปสู่การลดปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนทั้งทางตรงและทางอ้อม
ปี 2562 โครงการคลินิกแก้หนี้ ระยะที่ 2 ขยายขอบเขตให้รวมลูกหนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลของผู้ประกอบการ non-bank 19 แห่งที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงลูกหนี้ ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่ 15 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป ทำให้โครงการคลินิกแก้หนี้ สามารถทำหน้าที่เป็นกลไกในการ แก้ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน ซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างได้อย่างกว้างขวางและครบวงจรอย่างแท้จริง
ปัจจุบันโครงการฯ เดินหน้าเข้าสู่ “ระยะที่ 3” โดยได้ขยายขอบเขตให้สามารถแก้ไขหนี้บัตรที่มีเจ้าหนี้รายเดียว และหนี้บัตรที่อยู่ในกระบวนการของศาลและมีคำพิพากษาแล้ว รวมทั้งปรับปรุงคุณสมบัติผู้เข้าโครงการจากเดิมต้องมีหนี้บัตรที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2562 มาเป็นวันที่ 1 มกราคม 2563
ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2562 คลินิคแก้หนี้สามารถช่วยประชาชนแก้หนี้บัตรไปแล้ว 3,194 ราย ครอบคลุมบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดกว่า 13,000 ใบ มีหนี้บัตรเฉลี่ยรายละ 3 ใบ มูลหนี้เฉลี่ยต่อราย 234,843 บาท ในจำนวนนี้ 72 รายชำระหนี้หมดแล้ว
หลักการแก้ปัญหาสารพัดหนี้ของ “คลินิกแก้หนี้”
- เป็นหน่วยงานกลางเชื่อมโยงระหว่างลูกหนี้และเจ้าหนี้หลายราย เพื่อดำเนินการให้ลูกหนี้และเจ้าหนี้ทุกรายได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน
- ส่งเสริมให้ลูกหนี้มีวินัยทางการเงินที่ดี ด้วยการอบรมให้ความรู้ทางการเงินแก่ลูกหนี้
- ลูกหนี้สมัครใจเข้าโครงการ
- ลูกหนี้ไม่ก่อหนี้ใหม่ในช่วงเวลาที่กำหนด
- อัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาผ่อนชำระเอื้อต่อการแก้ไขหนี้
คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการ มีดังนี้
- เป็นบุคคลธรรมดา ที่มีรายได้ อายุไม่เกิน 65 ปี
- เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคล ที่ไม่มีหลักประกันของสถาบันที่เข้าร่วมโครงการ เป็น NPL ก่อน 1 มกราคม 2563 (ตามรายงานเครดิตบูโร ณ เดือน ธ.ค. 62 ต้องมีสถานะค้างชำระ 91-120 วันขึ้นไป)
- หนี้รวมไม่เกิน 2 ล้านบาท
ขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการ
- ขั้นตอนที่ 1 : ตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ
- ขั้นตอนที่ 2 : กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มใบสมัคร
- ขั้นตอนที่ 3 : จัดเตรียมเอกสารประกอบการเข้าร่วมโครงการ ดังนี้
1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน / สำเนาทะเบียนบ้าน ของผู้สมัคร
2. เอกสารการตรวจสอบข้อมูลภาระหนี้จาก เครดิตบูโร โดย ลูกค้าสามารถ ขอข้อมูลเครดิตบูโรได้ที่ ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร / เคาน์เตอร์ธนาคาร / ATM / Mobile App / ที่ทำการไปรษณีย์ไทย / Internet Banking
พนักงานประจำ
1. สลิปเงินเดือน 3 เดือน
อาชีพอิสระ
1. รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
2. เอกสารการแสดงการเสียภาษีเงินได้ 50 ทวิ (ถ้ามี)
- ขั้นตอนที่ 4 : เมื่อได้รับการยืนยันจากสถาบัน ให้เข้าร่วมโครงการ เจ้าหน้าที่โครงการฯ จะติดต่อนัดหมายท่าน เพื่อให้เข้ามาลงนามสัญญา ปรับโครงสร้างหนี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
Add Friend FollowJune 15, 2020 at 07:07AM
https://ift.tt/3e2s94n
หนี้เยอะ เครียด อยากแก้หนี้เสียสารพัดบัตร 'คลินิกแก้หนี้' ช่วยได้เพียงทำตามนี้! - thebangkokinsight.com
https://ift.tt/36HR5eA
Home To Blog
No comments:
Post a Comment